Total Pageviews

Sponsored Ads

Monday 17 September 2018

การเติม ed หลักการเปลี่ยนคำกริยาเป็น Past Tense




การเปลี่ยนรูปคำกริยาเป็น Past Tense นั้น มีอยู่ด้วยกัน  2 วิธี คือ
1.  เติม ed ท้ายคำกริยาช่องที่ 1 (regular verb)
2.  คำกริยาที่เปลี่ยนรูปใหม่ (irregular verb)


ซึ่งหลักการนี้ ก็ใช้เช่นเดียวกันกับการเปลี่ยนคำกริยาเป็น Past Participle (verb3)


หลักการเติม ed  ท้ายคำกริยา มีดังนี้

1. คำกริยาโดยทั่วไป เมื่อเปลี่ยนเป็นคำกริยาช่อง 2-3 เติม ed
·       listen-listened-listened    (ฟัง)          
·       look-looked-looked    (มองดู)
·       paint-painted-painted    (ทาสี)          
·       rain-rained-rained      (ฝนตก)         
·       talk-talked-talked    (พูดคุย)
·       visit-visited-visited    (เยี่ยมเยียน)   
·       point-pointed-pointed    (ชี้)
·       watch-watched-watched  (ดู, เฝ้าดู)          
·       jump-jumped-jumped   (กระโดด)

2. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย e สามารถเติม d ได้เลย
·       loved-loved-loved    (รัก)        
·       like-liked-liked      (ชอบ)
·       live-lived-lived    (อาศัยอยู่, มีชีวิตอยู่)                    
·       move-moved-moved    (เคลื่อนย้าย)
·       hate-hated-hated     (เกลียด)         
·       hope-hoped-hoped    (หวัง)
·       smile-smiled-smiled  (ยิ้ม)               
·       bake-baked-baked   (อบ)

3. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y มี 2 กรณี คือ
·       ถ้าหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i เติม ed
marry-married-married        (แต่งงาน)
hurry-hurried-hurried    (รีบเร่ง)
study-studied-studied        (เรียน)   
cry-cried-cried    (ร้องไห้)             
carry-carried-carried   (ถือ)
worry-worried-worried        (กังวล, เป็นห่วง)    
deny-denied  (ปฏิเสธ)
·       ถ้าหน้า y เป็นสระ สามารถเติม d ได้เลย
play-played-played    (เล่น)        
stay-stayed-stayed    (อยู่)
enjoy-enjoyed-enjoyed   (สนุกสนาน)             
obey-obeyed-obeyed    (เชื่อฟัง)

4. คำกริยาที่มีพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดตัวท้ายอีกหนึ่งตัว แล้วเติม ed
·       stop-stopped-stopped (หยุด)      
·       plan-planned-planned  (วางแผน)
·       fit-fitted-fitted (พอดี, ติดตั้ง)         
·       beg-begged-begged    (ขอ)

5. คำกริยาที่ลงท้ายด้วยสระตัวเดียว และออกเสียงเน้นหนักพยางค์หลัง ให้เพิ่มตัวสะกดตัวท้ายอีกหนึ่งตัว แล้วเติม ed
·       prefer-preferred-preferred    (ชอบมากกว่า)
·       refer-referred-referred    (อ้างอิง)
·       admit-admitted-admitted    (ยอมรับ, รับเข้าไว้)
·       commit-committed-committed (ทำความผิด,มอบหมายให้)
·       permit-permitted-permitted  (อนุญาต)
·       occur-occurred-occurred    (เกิดขึ้น)

หมายเหตุ  *.. แต่ถ้าคำกริยาที่ลงท้ายด้วยสระตัวเดียวนั้น ไม่ได้ออกเสียงเน้นหนักพยางค์หลัง ไม่ต้องเพิ่มตัวสะกดตัวท้าย
·       inherit-inherited-inherited    (รับมรดก)
·       target-targeted-targeted     (ตั้งเป้าหมาย)
·       cover-covered-covered        (คลุม, ปิดบัง) 
·       open-opened-opened  (เปิด)
** ซึ่งก็คือคำกริยาโดยทั่วไป ที่เติม ed นั่นเอง   


Irregular verbs ก็คือ คำกริยาที่ไม่ปกติ  จะมีการเปลี่ยนรูปเมื่อเป็น Past Tense  ซึ่งการเปลี่ยนรูปแบบนั้น มีดังนี้ คือ

1.  คำกริยาที่แตกต่างกันทั้ง 3 ช่อง
speak-spoke-spoken   (พูด)
drink-drank-drunk   (ดื่ม)
steal-stole-stolen  (ขโมย)
grow-grew-grown  (ปลูก/เติบโต)

2.  คำกริยาที่ช่อง 1 (Infinitive) แตกต่างจาก 2 (Simple Past) แต่เหมือนกับช่อง 3 (Past Participle)
buy-bought-bought  (ซื้อ)
say-said-said  (พูด)
tell-told-told   (บอก)
think-thought-thought   (คิด)

3.  คำกริยาที่ช่อง 1 (Infinitive) ไม่เหมือนช่อง 2 (Simple Past) แต่เหมือนช่อง 3 (Past Participle)
run-ran-run   (วิ่ง)
become-became-become   (กลายเป็น)
come-came-come   (มา)

4.  คำกริยาที่ไม่เปลี่ยนแปลงรูป
put-put-put (วาง)
shut-shut-shut  (ปิด)
hurt-hurt-hurt  (เจ็บ)
hit-hit-hit    (ตี)
cut-cut-cut  (ตัด)


หมายเหตุ *..  Irregular verbs หรือกริยาเปลี่ยนรูปนั้น ต้องพยายามจำให้ได้ อย่านำกริยากลุ่นนี้ไปเติม ed เด็ดขาด

No comments:

Post a Comment