Total Pageviews

Sponsored Ads

Thursday 20 December 2018

สรุป โครงสร้าง Passive voice ทั้ง 12 Tenses อย่างง่ายสุด



เราได้เรียนรู้โครงสร้างประโยคของ Passive voice ทั้ง 12 Tenses กันมาแล้วว่า มีโครงสร้างอย่างไร..?

วันนี้.. เราก็จะมาสรุปโครงสร้างทั้ง 12  Tenses ว่าในแต่ละ Tense มีโครงสร้างของประโยคแตกต่างกันอย่างไร..? 


หมายเหตุ  โครงสร้างประโยค Passive voice ในบาง Tenses นั้น อาจจะไม่มีการนำมาใช้ หรือนำมาใช้น้อยมาก  ซึ่งตามตัวอย่างที่ยกมาแต่ละ Tense นั้น เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า โครงสร้างของประโยค Passive voice นั้นเป็นอย่างไร


Tuesday 18 December 2018

อธิบาย โครงสร้าง Passive voice ในกลุ่ม Future Tenses แบบเข้าใจได้ง่ายสุด


เรารู้แล้วว่า Tenses ในภาษาอังกฤษนั้น มีโครงสร้างอยู่ 2 รูปแบบ คือ Active voice และ Passive voice

Active voice  ก็คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาในประโยคด้วยตัวเอง ซึ่งเราได้เรียนรู้โครงสร้างกันมาแล้วในหลักการใช้ 12 Tenses  ทีนี้.. การที่เราจะเรียนรู้ Passive Voice ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ นั้น เราจะต้องเข้าใจในโครงสร้างและหลักการใช้ 12 Tenses มาแล้วพอสมควร เพราะจะเป็นการอธิบายขยายความเพิ่มเติมจากโครงสร้าง 12 Tenses ซึ่งเป็นโครงสร้างของ Active voice นั่นเอง

วันนี้.. เราก็จะมาเรียนรู้กันต่อว่า โครงสร้าง Passive voice ในกลุ่มของ Future Tenses ในแต่ละ Tense นั้น มีโครงสร้างอย่างไรบ้าง..? 

Future
ตัวอย่าง
S+will/shall+be+v3
S+will/shall+not+be+v3
Will/shall+S+be+v3

-A new computer will be bought by Jane.
-The museum will be visited by millions of people.
-The contract will be signed by our boss.
-The shower will be repaired by plumber.
-The shower will not be repaired by plumber.
-Will the shower be repaired by plumber?
-A new worker will be employed by the company.

S+will/shall+be+being+v3
S+will/shall+not+be+being+v3
Will/shall+S+be+being+v3

-At 7 pm. tonight, the dishes will be being washed by Jane.
-At 7 pm. tonight, the dishes will not be being washed by Jane.
-At 7 pm. tonight, will the dished be being washed by Jane?

S+will/shall+have+been+v3
S+will/shall+not+have+been+v3
Will/Shall+S+have+been+v3

-Our plants will have been damaged by the monkeys.
-You will have been invited by Jan on her birthday party.
-Medicines will have been taken by her on time.
-The first prize will have been won by Jack.
-The first prize will not have been won by Jack.
-Will the first prize have been won by Jack?

S+will/shall+have+been
+being+v3
S+will/shall+not+have+been
+being+v3
Will/Shall+S+have+been
+being+v3

-English will have been being taught by us for 2 years at Get Smart English School.
-English will not have been being taught by us for 2 years at Get Smart English School.
-Will English have been being taught by us for 2 years at Get Smart English School?

โครงสร้างของประโยค Passive voice  นี้ เราจะต้องจำโครงสร้างหลัก คือ Verb to be + v3 นี้ให้ได้  โดยโครงสร้างหลักนี้ จะผันไปตามประธานและ Tenses ในกลุ่ม Future Tenses  ทั้ง 4 Tenses  และมีหลักการใช้ เหมือนกันกับประโยค  Active voice  เพียงแต่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประโยคให้เป็น Passive voice เท่านั้น..


หมายเหตุ  โครงสร้างประโยค Passive voice ในบาง Tenses นั้น อาจจะไม่มีการนำมาใช้ หรือนำมาใช้น้อยมาก  ซึ่งตามตัวอย่างที่ยกมาแต่ละ Tense นั้น เพื่อให้เห็นว่าโครงสร้างของ Passive voice นั้นเป็นอย่างไร



Saturday 15 December 2018

อธิบาย โครงสร้าง Passive voice ในกลุ่ม Past Tenses แบบเข้าใจง่าย


เรารู้แล้วว่า Tenses ในภาษาอังกฤษนั้น มีโครงสร้างอยู่ 2 รูปแบบ คือ Active voice และ Passive voice

Active voice  ก็คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาในประโยคด้วยตัวเอง ซึ่งเราได้เรียนรู้โครงสร้างกันมาแล้วในหลักการใช้ 12 Tenses  ทีนี้.. การที่เราจะเรียนรู้ Passive Voice ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ นั้น เราจะต้องเข้าใจในโครงสร้างและหลักการใช้ 12 Tenses มาแล้วพอสมควร เพราะจะเป็นการอธิบายขยายความเพิ่มเติมจากโครงสร้าง 12 Tenses ซึ่งเป็นโครงสร้างของ Active voice นั่นเอง

วันนี้.. เราก็จะมาเรียนรู้กันต่อว่า โครงสร้าง Passive voice ในกลุ่มของ Past Tenses ในแต่ละ Tense นั้น มีโครงสร้างอย่างไรบ้าง..? 

Past
ตัวอย่าง
S+was/were+v3
S+was/were+not+v3
Was/Were+S+v3

-A big prize was won by Pola.
-The window was broken by him.
-His servant was abused by Jack.
-The snake was hit by John.
-The snake was not hit by John.
-Was snake hit by John?

S+was/were+being+v3
S+was/were+not+being+v3
Was/Were+S+being+v3

-This novel was being written by Jane.
-Dinner was being prepared by my mother.
-A speech was being made by him.
-A speech was not being made by him.
-Was a speech being made by him?
-Flowers were being grown in this garden.

S+had+been+v3
S+had+not+been+v3
Had+S+been+v3

-This project had been finished by Paul.
-This project had not been finished by Paul.
-Had this project been finished by Paul?
-They had been invited to the party by her.
-English lessons had been taught by Jane.
-A big mistake had been made by him.

S+had+been+being+v3
S+had+not+been+being+v3
Had+S+been+being+v3

-The boy had been being punished by his dad.
-He had been being informed by his manager.
-The wood had been being chopped by Jim when the rain started.
-The wood had not been being chopped by Jim when the rain started.
-Had the wood been being chopped by Jim when the rain started?
-The Walking Dead had been being watched by Jane when her husband arrived home.


โครงสร้างของประโยค Passive voice  นี้ เราจะต้องจำโครงสร้างหลัก คือ Verb to be + v3 นี้ให้ได้  โดยโครงสร้างหลักนี้ จะผันไปตามประธานและ Tenses ในกลุ่ม Past Tenses  ทั้ง 4 Tenses  และมีหลักการใช้ เหมือนกันกับประโยค
Active voice  เพียงแต่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประโยคให้เป็น Passive voice เท่านั้น..

หมายเหตุ  โครงสร้างประโยค Passive voice ในบาง Tenses นั้น อาจจะไม่มีการนำมาใช้ หรือนำมาใช้น้อยมาก  ซึ่งตามตัวอย่างที่ยกมาแต่ละ Tense นั้น เพื่อให้เห็นว่า โครงสร้างของ Passive voice นั้น เป็นอย่างไร



Friday 14 December 2018

อธิบาย โครงสร้าง Passive voice ในกลุ่ม Present Tenses แบบเข้าใจง่าย



เรารู้แล้วว่า Tenses ในภาษาอังกฤษนั้น มีโครงสร้างอยู่ 2 รูปแบบ คือ Active voice และ Passive voice

Active voice  ก็คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาในประโยคด้วยตัวเอง ซึ่งเราได้เรียนรู้โครงสร้างกันมาแล้วในหลักการใช้ 12 Tenses  ทีนี้.. การที่เราจะเรียนรู้ Passive Voice ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ นั้น เราจะต้องเข้าใจในโครงสร้างและหลักการใช้ 12 Tenses มาแล้วพอสมควร เพราะจะเป็นการอธิบายขยายความเพิ่มเติมจากโครงสร้าง 12 Tenses ซึ่งเป็นโครงสร้างของประโยค Active voice 

วันนี้.. เราก็จะมาเรียนรู้กันต่อว่า โครงสร้าง Passive voice ในกลุ่มของ Present Tenses ในแต่ละ Tense นั้น มีโครงสร้างอย่างไรบ้าง..? 

Present
ตัวอย่าง
S+is/am/are+v3
S+is/am/are+not+v3
Is/Am/Are+S+v3

-Wine is made from grapes.
-English class is taught by Jim.
-English class is not taught by Jim.
-Is English class taught by Jim?
-These machines are used to mix ingredients.
-Champagne is drunk on New Year’s Eve.

S+is/am/are+being+v3
S+is/am/are+not+being+v3
Is/Am/Are+S+being+v3

-The email is being sent right now.
-The email is not being sent right now.   
-Is the email being sent right now?
-The road is being repaired now.
-The house is being cleaned at the moment.
-The old beggar’s being laughed at by the children.

S+has/have+been+v3
S+has/have+not+been+v3
Has/Have+S+been+v3

-My car has been stolen!
-My car has not been stolen.
-Has my car been stolen?
-All the cookies have been eaten.
-A house has been built since January.
-The right of my novel has been sold for 1,000,000 Baht.

S+has/have+been+being+v3
S+has/have+not+been+being+v3
Has/Have+S+been+being+v3

-You’ve been being counted twice.
-The package has been being delivered late.
-She’s been being controlled by her parents.
-The toys have been being broken by the children.
-The toys have not been being broken by the children.
-Have the toys been being broken by the children?


โครงสร้างของประโยค Passive voice  นี้ เราจะต้องจำโครงสร้างหลัก คือ Verb to be + v3 นี้ให้ได้  โดยโครงสร้างหลักนี้ จะผันไปตามประธานและ Tenses ในกลุ่ม Present Tenses  ทั้ง 4 Tenses  และมีหลักการใช้ เหมือนกันกับประโยค Active voice  เพียงแต่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประโยคให้เป็น Passive voice เท่านั้น..



Wednesday 5 December 2018

เงื่อนไขที่ไม่สามารถเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice


สืบเนื่องมาจากบทความที่แล้ว เราทราบกันแล้วว่า  การที่จะเปลี่ยนประโยค Active voice เป็น Passive voice โดยการสลับตำแหน่งกัน ระหว่างประธานกับกรรม โดยการนำกรรมของประโยค Active voice มาอยู่ในตำแหน่งประธานและทำหน้าที่ประธานของประโยค Passive voice นั้น มีหลักอย่างไร..?

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ใช่จะเปลี่ยนประโยค Active voice เป็น Passive voice ได้ทั้งหมดทุกประโยค ยังมีเงื่อนไขข้อยกเว้นอื่นๆประกอบอีก

ทีนี้.. เรามาดูกันต่อว่า มีข้อห้ามหรือข้อยกเว้นอะไรบ้าง..?  ที่ไม่สามารถเปลี่ยนประโยค Active voice เป็น Passive voice ได้

ข้อยกเว้น ก็คือ มีคำกริยาบางคำที่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็น Passive voice ได้ คือ

1. คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรมมารองรับ (Intransitive verbs)
  • He runs very fast.
  • I slept well last night.
  • Jane drives to school every day.
คำกริยากลุ่มนี้ ไม่สามารถนำมาทำเป็นประโยค Passive voice ได้เลย 

2. คำกริยาที่มีกรรมมารองรับ (Transitive verbs) บางคำ ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นประโยค Passive voice ได้ เช่น  belong, have, own, possess, fit, lack, resemble, suit เป็นต้น
  • Jim has a Thai Bangkaew dog.
  • A Thai Bangkaew dog is had by Jim.        
  • This coat doesn’t fit me.
  • I am not fitted by this coat. 
  • She resembles a princess. (เธอคล้ายกับเจ้าหญิง)
  • A princess is resembled by her.   
  • Jim lack tact.  (จิมขาดไหวพริบ)
  • Tact is lacked by Jim.      
  • This house belongs to me. (บ้านหลังนี้เป็นของผม)
  • I am belonged by this house.  

3. คำกริยาที่ไม่สมบูรณ์ความ (Verb of incomplete Predication) คำกริยาในกลุ่มนี้ ไม่จำเป็นต้องมีกรรมมารองรับ  แต่จะไม่มีใจความสมบูรณ์ในตัวของมันเอง กล่าวคือ จะต้องมีคำอื่นๆ (Complement) มาประกอบหรือขยายความให้ได้ใจความสมบูรณ์  เช่น  is, am, are, was, were, look, become, seem เป็นต้น
  • Jim became a doctor.
  • A doctor was become by Jim.
  • I am an English teacher.
  • An English teacher is been by me.
  • She looks very sad.
  • Very sad is looked by her.
คำกริยาในกลุ่มนี้ ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนเป็น Passive voice ได้เลย เพราะคำที่ตามหลังคำกริยาเหล่านี้ ไม่ใช่กรรม แต่เป็นส่วนเติมเต็ม (Complement) ที่มาช่วยขยายให้ได้ใจความสมบูรณ์เท่านั้น



Tuesday 4 December 2018

หลักการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice


สืบเนื่องมาจากบทความที่แล้ว เราทราบกันแล้วว่า Active Voice และ Passivevoice นั้น คืออะไร..? แล้วเราก็ยังทราบอีกว่า การเปลี่ยนประโยค Active voice เป็น Passive voice นั้น โดยการสลับตำแหน่งกัน ระหว่างประธานกับกรรม โดยการนำกรรมของประโยคมาอยู่ในตำแหน่งประธานและทำหน้าที่ประธานของประโยค Passive voice

ทีนี้.. เรามาเรียนรู้กันต่อว่า การที่จะเปลี่ยนประโยค Active voice เป็น Passive voice โดยการสลับตำแหน่งกรรมมาอยู่ในตำแหน่งประธานและทำหน้าที่ประธานของประโยค นั้น มีหลักอย่างไร..?

หลักการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice

1.  สลับตำแหน่งระหว่างประธานและกรรมของประโยค Active voice  โดยกรรมย้ายมาอยู่ในตำแหน่งประธานและทำหน้าที่ประธาน ส่วนประธานย้ายไปอยู่ในตำแหน่งกรรม ทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็ม ในประโยค Passive voice  โดยวางไว้หลัง by

2.  ให้เปลี่ยนกริยาในประโยค Active voice เป็นรูปที่ 3 (past participle) ใน Passive voice โดยตามหลัง Verb to be ซึ่ง Verb to be นี้ จะต้องใช้ให้ถูกต้องตามประธานและ Tenses แต่ละ Tense

3. ถ้าประธานของประโยค Active voice เป็นคำสรรพนาม (Pronoun) เราต้องเปลี่ยนคำสรรพนามจากรูปประธานหรือรูปกรรม มาเป็นรูปกรรมหรือรูปประธานในประโยค Passive voice
  • Active voice    : Jack drives a Honda car.
  • Passive voice  : A Honda car is driven by Jack.
  • Active voice    : Snake bit me.
  • Passive voice  : I was bitten by snake.
  • Active voice    : He feeds a dog.
  • Passive voice  : A dog is fed by him
บางครั้งประธานของประโยค Active voice ก็สามารถที่จะละเว้นได้ ถ้าประโยค Passive voice นั้น มีความหมายเพียงพอถึงแม้จะไม่มีประธานในประโยค Active voice มาเป็นส่วนเติมเต็มขยายความ
  • Active voice    : Policeman arrested a theft.
  • Passive voice  : A theft was arrested. (หัวขโมยถูกจับ)
ในประโยคนี้ เราสามารถละประธานของประโยค Active voice ใน Passive voice ได้ ถึงแม้ไม่มี เราก็เข้าใจความหมาย เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนจับ

ในบางครั้งประโยคอาจจะมีกรรม 2 ตัว  คือกรรมตรง (Direct object) เป็นสิ่งของ และกรรมรอง (Indirect object) เป็นคน เมื่อเปลี่ยนประโยคเป็น Passive voice เราสามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ
  • Active voice     : The teacher teaches us English.
  • Active voice       The teacher teaches English to us.
  • Passive voice   : We are taught English by the teacher.   
  • Passive voice     English is taught to us by the teacher.
หมายเหตุ  ในการเปลี่ยนประโยค Active voice เป็น Passive voice นั้น ใช่จะเปลี่ยนได้ทั้งหมดทุกประโยค   ยังมีเงื่อนไขข้อยกเว้นอื่นๆประกอบอีก




Monday 3 December 2018

Active voice กับ Passive voice คืออะไร..?



Tenses ในภาษาอังกฤษนั้น มีโครงสร้างอยู่ 2 รูปแบบ คือ Active voice และ Passive voice 

Active voice  ก็คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาในประโยคด้วยตัวเอง ซึ่งเราได้เรียนรู้โครงสร้างกันมาแล้วในหลักการใช้ 12 Tenses   ส่วน Passive Voice ก็คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ  การที่จะเรียนรู้ Passive voice นั้น เราจะต้องเข้าใจในหลักการใช้ 12 Tenses มาแล้วพอสมควร เพราะจะเป็นการอธิบายขยายความเพิ่มเติมจากโครงสร้าง 12 Tenses นั่นเอง

เราทราบกันแล้วใช่มั้ย..? ว่าองค์ประกอบของประโยคนั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 ส่วน คือ
  • ประธาน คือ ผู้กระทำ
  • กริยา คือ อาการกระทำ
  • กรรม คือ ผู้ถูกกระทำ
ตัวอย่าง เช่น Thai people eat rice.  
  • ประธาน คือ Thai people (คนไทย)
  • กริยา คือ eat (กิน)
  • กรรม คือ rice (ข้าว)
จะเห็นได้ว่า ประโยคตามตัวอย่างนี้ เน้นประธาน คือ Thai people โดยการเอาประธานขึ้นต้นประโยค เพื่อเน้นว่า ใครหรือสิ่งใด ทำอะไร ซึ่งเราเรียกประโยคแบบนี้ว่า Active voice

ทีนี้.. เรามาสลับตำแหน่งกัน โดยการเอากรรมมาเป็นประธานขึ้นต้นประโยค ก็จะกลายเป็น   Rice is eaten by Thai people.
  • ประธาน คือ Rice (ข้าว)
  • กริยา คือ is eaten (ถูกกิน)
  • by Thai people (โดยคนไทย) ทำหน้าที่เป็นส่วนขยาย
ประโยคนี้ จะเน้นกรรม คือ Rice โดยการนำผู้ถูกกระทำขึ้นต้นประโยค เพื่อเน้นว่า ใครหรือสิ่งใด ถูกกระทำ เราเรียกประโยคแบบนี้ว่า Passive voice   

ตามตัวอย่างทั้ง 2 จึงสรุปได้ว่า
  • Active voice คือ ประโยคที่เน้นประธาน ว่าใครหรือสิ่งใดเป็นผู้กระทำ
  • Passive voice คือ ประโยคที่เน้นกรรม ว่าใครหรือสิ่งใดเป็นผู้ถูกกระทำ
ซึ่งประโยคทั้ง นี้จะสื่อความหมายเดียวกัน โดยประโยคแรกประธานเป็นผู้กระทำ ส่วนประโยคที่ ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ จะเห็นได้ว่า ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ Passive voice นี้ เป็นการเปลี่ยนมาจากประโยคประธานเป็นผู้กระทำ Active voice โดยการสลับตำแหน่งกัน โดยเอากรรมมาอยู่ในตำแหน่งประธาน ทำหน้าที่ประธาน และเอาประธานไปอยู่ในตำแหน่งกรรม ทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็ม นั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ทั้งหมดซะทีเดียว ยังมีเงื่อนไขอื่นๆประกอบอีก  (หลักการเปลี่ยนประโยค Active voice เป็น Passive voice พร้อมทั้งเงื่อนไขต่างๆ)

มาถึงจุดนี้ อาจจะเกิดความสงสัยว่า eat (กิน) แต่ is eaten (ถูกกิน) เอ๊ะ..! มันยังงัยกัน..?  ซึ่ง is eaten นี้ มันเป็นโครงสร้างประโยคของ Passive voice ซึ่งมีโครงสร้างหลักคือ Verb to be + v3 โดย Verb to be ตามโครงสร้างนี้ จะผันเปลี่ยนไปตามประธานและ Tenses ต่างๆทั้ง 12 Tenses  และหลักการใช้ Passive voice นี้ ก็เหมือนกันกับ Active voice เพียงแต่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประโยคเท่านั้น

ทีนี้.. เรามาเรียนรู้โครงสร้างของประโยค Passive voice ทั้ง 12 Tenses กัน ว่ามีรูปแบบโครงสร้างอย่างไรบ้าง..?  โดยจะแยกการอธิบายออกเป็น 3 กลุ่ม คือ


Tuesday 27 November 2018

สรุป หลักการใช้ 12 Tenses ว่าใช้ต่างกันอย่างไร..?


เราได้เรียนรู้หลักการใช้ Tensesทั้ง 12 Tenses กันมาแล้วว่า มีหลักการใช้อย่างไร..?

วันนี้.. เราก็จะมาสรุปหลักการใช้ทั้ง 12  Tenses ว่าในแต่ละ Tense มีหลักการใช้แตกต่างกันอย่างไร..? 



Present
Past
Future





Simple

S+v1
ใช้กล่าวถึงนิสัยหรือความจริงทั่วไป รวมทั้งแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก(รัก,ชอบฯลฯ)
-I eat breakfast every day.
-It rains in winter in south of Thailand.
-Paul loves spicy food.
-I hate snakes.
S+v2
ใช้กล่าวถึงนิสัยในอดีตหรือเหตุการณ์ที่จบสิ้นลงไปแล้ว
-I ate breakfast every day last year.
-It rained in Phuket yesterday.
S+will/shall+v1
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หรือการดาดเดาเหตุการณ์    รวมไปถึงการสัญญา
-I will eat breakfast later.
-I think he will return next week.
-I promise I won’t forget you. 







Continuous

S+is/am/are+v-ing
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กำลังกระทำในขณะที่พูด หรือเกิดขึ้นในช่วงที่พูด
-I am eating breakfast right now.
-Paul is studying Thai in Phuket.

S+was/were+v-ing
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในช่วง เวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต หรือก่อนที่จะมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาขัดจังหวะ
-At 4.30 pm. they were playing the second set.
-I was eating breakfast when my sister arrived.

S+will+be+v-ing
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะกำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต หรือก่อนที่จะมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก
-I’ll be eating dinner at 8 pm. tonight.
-I’ll be sleeping when you arrive.





Perfect

S+has/have+v3
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และอาจจะดำเนินต่อไปในอนาคต หรือเพิ่งจะเสร็จสิ้น แต่อาจจส่งผลมาถึงปัจจุบัน
-Paul has lived in Bangkok for 2 years.
-I have just eaten breakfast. 

S+had+v3
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้วในอดีต ก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่ง
-I had already eaten breakfast when my sister arrived.
-They have just moved to Phuket before I came to Bangkok.
S+will+have+v3
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเสร็จสิ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต หรือก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งจะเสร็จสิ้น
-By April they’ll have moved to Phuket.
-I’ll have already eaten breakfast by the time my sister arrives.





Perfect Continuous

S+has/have+been+v-ing
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันและอาจจะดำเนินต่อไปในอนาคต
-I’ve been eating breakfast for 1 hour.
-Paul has been living in Bangkok since 2015.

*เน้นย้ำการกระทำที่ต่อเนื่องและยังไม่เสร็จสิ้น*
S+had+been+v-ing
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ดำเนินต่อเนื่องเรื่อยมาจนมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก
-I had been eating breakfast for 1 hour when my sister arrived.    
-Paul had been living in Bangkok for 3 years when I met him.   

S+will+have+been+v-ing
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ได้ดำเนินเรื่อยมาจนถึงเวลาที่ได้ระบุไว้ในอนาคต หรือก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่ง
-By 2020 Paul will have been living in Bangkok for 5 years.
-Paul will have been living in Bangkok for 5 years before he moves to Phuket.

จะเห็นได้ว่า หลักการใช้บาง Tenses อาจจะมีลักษณะการใช้ที่คล้ายๆกัน  ซึ่งตรงนี้ เราก็ต้องพยายามจำให้ได้ว่า ในแต่ละ Tense มีหลักการใช้อย่างไร เวลานำไปใช้ จะได้ไม่เกิดความสับสน