Total Pageviews

Sponsored Ads

Friday 29 November 2019

Verbs คำกริยาคู่กับคำบุพบท Prepositions ที่ใช้กันบ่อยๆ


ในภาษาอังกฤษ มักจะนำคำนาม (Nouns) คำกริยา (Verbs) หรือคำคุณศัพท์ (Adjective) มาใช้คู่กับคำบุพบท (Prepositions) ซึ่งเราเรียกกลุ่มคำที่ใช้ร่วมกันนี้ว่า Collocation
ทีนี้.. มาดูกันว่า คำกริยา (Verbs) คู่กับบุพบท (Prepositions) ที่ใช้กันบ่อยๆ มีอะไรบ้าง..?

ตัวอย่าง เช่น
  • He apologized for coming late. (เขาขอโทษที่มาสาย)
  • I’ll prepare for my interview tomorrow. (ผมจะเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์พรุ่งนี้)
  • Nothing belongs to me. (ไม่มีอะไรเป็นของผม)
  • Listen to me, will you? (ฟังผมหน่อยได้มั้ย)
  • Jane comes from a talented family. (เจนมาจากครอบครัวที่มีพรสวรรค์)
  • Whenever I go abroad, I suffer from jet lag. (เมื่อใดก็ตามที่ผมไปต่างประเทศ  ผมต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการเจ็ตแล็ก)
  • I always dream of you.  (ผมฝันถึงคุณเสมอ)
  • Get rid of it. (กำจัดมันซะ)
  • Forget about that right now.  (ลืมเรื่องนี้ไปได้เลย)
  • There’s nothing to worry about(ไม่มีอะไรต้องกังวล)

ตัวอย่าง เช่น
  • Jim quite agrees with you. (จิมค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณ)
  • He was face to face with me at last. (ในที่สุดเขาก็เผชิญหน้ากับผม)
  • Don’t interfere with her.  (อย่าเข้าไปยุ่งกับเธอ)
  • You must choose between honor and death. (คุณต้องเลือกระหว่างเกียรติยศและความตาม)
  • I believe in the Lord Buddha. (ผมศรัทธาในพระพุทธเจ้า)
  • Paul will succeed in the end. (พอลจะประสบความสำเร็จในที่สุด)
  • You can always count on Tom. (คุณสามารถไว้วางใจทอมได้เสมอ)
  • Jack insists on his innocence.  (แจคยืนกรานในความบริสุทธิ์ของเขา)
  • I can’t comment on this problem. (ผมไม่สามารถแสดงความเห็นเกี่ยวกับปัญหานี้)

นี่คือ ตัวอย่างคำกริยา Verbs คู่กับคำบุพบท Prepositions ที่พบและใช้กันบ่อยๆ ซึ่งคำกริยาบางคำสามารถใช้ร่วมกับคำบุพบทได้หลายตัว และคำกริยาบางคำก็ใช้กับคำบุพบทได้เพียงตัวเดียว (คำบุพบทเฉพาะ) เพราะฉะนั้น ก็ต้องพยายามศึกษาเพิ่มเติมจากพจนานุกรม dictionary ซึ่งได้ระบุอธิบายไว้ และพยายามสังเกตจดจำให้ได้ เพื่อที่จะนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง







Thursday 28 November 2019

Prepositions of manner คือ..? คำบุพบทบอกลักษณะอาการ ที่ใช้กันบ่อยๆ มีอะไรบ้าง..?


Prepositionof manner  คำบุพบทบอกลักษณะอาการ คือ คำบุพบทที่ใช้เชื่อมคำหรือวลีในเรื่องเกี่ยวกับการแสดงลักษณะอาการ บ่งบอกผู้กระทำ วิธีกระทำ การแสดงความเป็นเจ้าของ การแสดงวัตถุประสงค์ ความเห็น หรือความสัมพันธ์ 

ทีนี้.. มาดูกันต่อว่า Preposition of manner คำบุพบทบอกลักษณะอาการนั้น มีคำอะไรบ้างที่พบเห็นและใช้กันบ่อยๆ..?  มีวิธีใช้อย่างไร..?


ใช้ ิby ในความหมาย “ โดย ด้วย “ เช่น
  • I go to school by bus. (ผมไปโรงเรียนโดยรถโดยสาร)
  • We can’t go there by car. (เราไปที่นั่นโดยรถยนต์ไม่ได้)
  • He was bitten by a snake. (เขาถูกกัดโดยงู เขาถูกงูกัด)

ใช้ on ในความหมาย “ โดย ด้วย “ เช่น
  • Paul arrived on the island on hovercraft. (พอลมาถึงบนเกาะด้วยเรือเร็ว)
  • I like to travel on train. (ผมชอบเดินทางโดยรถไฟ)

ใช้ with ในความหมาย “ ด้วย กับ “ เช่น
  • We have noodles with chopsticks. (เราทานก๋วยเตี๋ยวด้วยตะเกียบ)
  • She reacted with anger. (เธอตอบโต้ด้วยความโกรธ)

ใช้ in ในความหมาย “ ด้วย ในสภาพ “ เช่น
  • She always speaks in a low voice. (เขาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำเสมอ)
  • He draws in ink. (เขาวาดด้วยหมึก)

ใช้ like ในความหมาย “ คล้ายกัน เหมือนกัน “ เช่น
  • Many say he laughs like a hyena. (หลายคนพูดว่าเขาหัวเราะเหมือนหมาใน)
  • He walks like a lame one. (เขาเดินคล้ายคนขาเป๋)
  • I love him like my brother. (ผมรักเขาเหมือนน้องชายของผม)

หมายเหตุ like โดยปกติเป็นคำกริยา (verb) แต่ในที่นี้ เรานำมาใช้เป็นคำบุพบท (preposition)

ใช้ as ในความหมาย “ ในตำแหน่ง ในฐานะ (เป็น) เหมือน “ เช่น
  • Jane got a job as an English teacher. (เจนได้งานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ)
  • He’s naked as a jaybird. (เขาล่อนจ้อนเหมือนลูกนก)

ใช้ of ในความหมาย “ ของ แห่ง “ เช่น
  • He’s a friend of mine. (เขาเป็นเพื่อนของผม)
  • This’s a 1994 model of the car. (นี่คือรุ่นของรถยนต์ปี 1994)

ใช้ for ในความหมาย “ ด้วย ให้กับ เพื่อ “ เช่น
  • They divorced for many reasons. (พวกเขาหย่าด้วยเหตุผลหลายประการ)
  • Most of the members voted for him. (สมาชิกส่วนใหญ่ลงคะแนนให้เขา)
  • I’m going out for a walk. (ผมจะออกไป(เพื่อ)เดินเล่น)

ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็จะเป็น Prepositions of manner คำบุพบทบอกลักษณะอาการ ที่พบเห็นกันบ่อยๆ  by, on, with, in, like, as, of, for ว่ามีหลักการใช้อย่างไร  คำบางคำสามารถใช้ได้หลายความหมาย ซึ่งเราก็ต้องพยายามจดจำหลักการใช้ ว่าคำบุพบทแต่ละคำนั้น ใช้อย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง






Wednesday 27 November 2019

Prepositions of direction/movement คือ..? คำบุพบทบอกทิศทาง บอกการเคลื่อนไหว มีหลักการใช้อย่างไร..?


Preposition of direction/movement คำบุพบทบอกทิศทางหรือการเคลื่อนไหว ใช้เพื่อบอกทิศทาง รวมทั้งบอกลักษณะอาการเคลื่อนไหวไปยังสถานที่ บริเวณ หรือจุดย่อยของสถานที่ต่างๆ 

ทีนี้.. มาดูกันต่อว่า Preposition of direction/movement คำบุพบทบอกทิศทางหรือการเคลื่อนไหวนั้น มีคำอะไรบ้างที่พบเห็นและใช้กันบ่อยๆ..? มีวิธีการใช้อย่างไร..?

1.  to, from, onto, off, into, out of
  • ใช้ to ในความมหาย ถึง ตรงไปยัง “ ส่วน from จาก มาจาก “ เช่น
    • They walk to school every day. (พวกเขาเดินไปโรงเรียนทุกวัน)
    • A book dropped from the shelf. (หนังสือหล่นมาจากชั้นวาง)
  • ใช้ onto ในความหมาย “ ไปยัง ไปบน “ ส่วน off  ออกจาก ออกไป “ เช่น
    • A cat jumped onto the sofa. (แมวกระโดดขึ้นไปบนโซฟา)
    • The dog ran off. (สุนัขวิ่งออกไป)
  • ใช้ into ในความหมาย “ เข้าไปใน เข้าไปยัง “  ส่วน out of  “ ออกจาก ออกมาจาก) เช่น
    • A bird flew into the tree.  (นกบินเข้าไปในต้นไม้)
    • She came out of the bathroom. (เธอออกมาจากห้องน้ำ)

2. up, down, round/around  
  • ใช้ up ในความหมาย “ ข้างบน เหนือ “ ส่วน down ข้างล่าง ลงข้างล่าง “ เช่น
    • He walked up the hill.  (เขาเดินขึ้นเนินเขา)
    • She’s walking down the stair. (เธอกำลังเดินลงบันได)
  • ใช้ round/around ในความหมาย “ รอบ รอบๆ “ เช่น
    • A crowd gather around him. (ฝูงชนมารวมตัวรอบๆตัวเขา)
    • Jim’s turning round.  (จิมกำลังหันไปรอบๆ)

3. across, along, past, through
  • ใช้ across ในความหมาย “ ข้ามจากฝากหนึ่งไปอีกฝากหนึ่ง
    • The little girl walked across the road alone.  (เด็กหญิงตัวน้อยเดินข้ามถนนคนเดียว)
    • The main road cut across our land. (ถนนสายหลักตัดผ่านที่ดินของเรา)
  • ใช้ along ในความหมาย “ ตามถนนหรือทาง ขนานไปกับ
    • A car bounced along a bad road. (รถกระเด้งไปตามถนน)
    • An orchestra is marching along the street. (วงดุริยางค์กำลังเดินขบวนไปตามถนน)
  • ใช้ past ในความหมาย “ ผ่านไป เลยผ่าน  ส่วน through  ทะลุออกไป ผ่านไป
    • The old man guided us through the castle.  (ชายชรานำทางเราผ่านประสาท)
    • The walk past the stores every day. (พวกเขาเดินผ่านร้านค้าทุกวัน)

ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็จะเป็น prepositions of direction (movement)  คำบุพบทบอกทิศทางหรือการเคลื่อนไหว ที่พบเห็นกันบ่อยๆ


ว่ามีหลักการใช้อย่างไร  ซึ่งเราก็ต้องพยายามจดจำหลักการใช้ ว่าคำบุพบทแต่ละคำนั้น ใช้อย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง