Present Continuous Tense หรือ Present
Progressive Tense ก็คือ ปัจจุบันกาลที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในปัจจุบันในขณะที่พูด โดยมีโครงสร้างของประโยค
ดังนี้
is ใช้กับประธานเอกพจน์ (he is,
she's, it is, Jane's)
am ใช้กับ I (I am, I'm)
are ใช้กับประธานพหูพนจ์
(we are, they're, birds are)
รูปแบบอย่างย่อ is not/isn’t, I’m not และ are not/aren’t
หมายเหตุ is,am,are ในโครงสร้าง Continuous Tenses นี้ ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย (Auxiliary หรือ helping verbs)
ส่วน Infinitive หรือ Verb1 ในโครงสร้าง Continuous Tense นั้น มีหลักการเติม ing ดังนี้ (อ่านเพิ่มเติม) และมีคำกริยาบางคำที่ไม่สามารถนำมาใช้เติม ing ในรูปของ Continuous Tense ได้ ซึ่งเราเรียกคำกริยากลุ่มนี้ว่า Stative verbs คำกริยาแสดงสภาวะ (อ่านเพิ่มเติม)
หมายเหตุ is,am,are ในโครงสร้าง Continuous Tenses นี้ ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย (Auxiliary หรือ helping verbs)
ส่วน Infinitive หรือ Verb1 ในโครงสร้าง Continuous Tense นั้น มีหลักการเติม ing ดังนี้ (อ่านเพิ่มเติม) และมีคำกริยาบางคำที่ไม่สามารถนำมาใช้เติม ing ในรูปของ Continuous Tense ได้ ซึ่งเราเรียกคำกริยากลุ่มนี้ว่า Stative verbs คำกริยาแสดงสภาวะ (อ่านเพิ่มเติม)
หลักการใช้ Present
Continuous Tense มีดังนี้ คือ
1. ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะที่พูด
และดำเนินต่อเนื่องต่อไปจนจบในอนาคต
มักจะมีกริยาวิเศษณ์บอกเวลา (Adverbs
of Time) เหล่านี้มาช่วยในประโยค
- They are having lunch right now. (พวกเขากำลังรับประทานอาหารกลางวันอยู่ตอนนี้
- Jim is talking on the phone at the moment. (จิมกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ในขณะนี้)
- We’re making pizza at this moment. (พวกเรากำลังทำพิซซ่าอยู่ ณตอนนี้)
- They are not waiting for you. (พวกเขาไม่ได้กำลังรอคุณ)
- Jack and Jane are going to school. (แจคและเจนกำลังไปโรงเรียน)
- Is baby drinking his bottle? (เด็กทารกกำลังดื่มนมอยู่มั้ย)
- He’s fighting with his brother. (เขากำลังต่อสู้กับพี่ชายของเขา)
- She’s not cooking right now. (เธอไม่ได้กำลังทำอาหารอยู่ตอนนี้)
- Are you listening to me? (คุณกำลังฟันฉันอยู่มั้ย)
2. ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดในช่วงที่พูด แต่ไม่ได้กำลังเกิดในขณะที่พูด
- The stocks are dropping constantly due to bad economy. (หุ้นกำลังตกลงเรื่อยๆเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี)
- John’s studying Thai at Thai language school. (จอห์นกำลังเรียนภาษาไทยที่โรงเรียนสอนภาษาไทย)
- I’m reading a really interesting book now. (ฉันกำลังอ่านหนังสือที่น่าสนใจจริงๆอยู่ตอนนี้)
- Prem’s studying hard to become a petroleum engineer. (เปรมกำลังเรียนอย่างหนักเพื่อเป็นวิศวกรปิโตรเลี่ยม)
3. ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ คือเกิดขึ้นอย่างแน่นอน (มักจะมีคำบ่งบอกเวลาในอนาคต เช่นเดียวกับ Future Simple Tense)
- Paul’s coming for dinner tonight. (พอลกำลังจะมาทานข้าวเย็นคืนนี้)
- Are you studying tomorrow? (คุณจะเรียนในวันพรุ่งนี้มั้ย)
- She’s teaching this topic now. (เธอกำลังจะสอนหัวข้อนี้ตอนนี้)
- I’m seeing my dentist this evening. (ฉันจะพบหมอฟันตอนเย็นนี้)
- He’s visiting his parents this weekend. (เขากำลังจะไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขาวันหยุดสุดสัปดาห์นี้)
- I’m having a birthday party tomorrow. (ผมกำลังจะมีงานเลี้ยงวันเกิดพรุ่งนี้)
- We’re playing golf this afternoon. (พวกเรากำลังจะเล่นกอล์ฟบ่ายนี้)
หมายเหตุ ** จะเห็นได้ว่าการใช้ Present Continuous Tense ในข้อนี้ จะคล้ายๆกับ Future Simple Tense แต่จะแปลเป็น “ กำลังจะ “ หรือจะแปลว่า " จะ " ก็ได้ และจะต้องเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้ ถ้าไม่แน่นอนจะใช้ Future Simple Tense
ดีมากกกกกกกกกกกกกก
ReplyDeleteอ่านแล้วเข้าใจ ขอบคุณคะ..:)
ReplyDelete