ในภาษาอังกฤษ มักจะนำคำนาม (Nouns)
คำกริยา (Verbs) คำคุณศัพท์ (Adjective)
คำบุพบท (Prepositions) มาใช้ร่วมกัน
ซึ่งเราเรียกกลุ่มคำที่ใช้ร่วมกันนี้ว่า Collocation คำปรากฏร่วม
เป็นการเชื่อมคำหรือกลุ่มคำ วลี (Phrase) รวมทั้งสำนวน (Idiom) ที่จำเป็นต้องใช้ร่วมกันในประโยค
ซึ่งคำที่ใช้ร่วมกันนี้
ได้กำหนดไว้แน่ชัดว่าจะใช้คู่กับคำอะไร จะใช้คำอื่นแทนหรือสลับตำแหน่งกันไม่ได้
ถึงแม้ว่าคำที่จะใช้แทนนั้น จะมีความหมายเหมือนกัน หรือใกล้เคียงกันก็ตาม
ตัวอย่างเช่น
- I really love sports car. (ผมรักรถสปอร์ตจริงๆ)
- The return flight was so boring. (เที่ยวบินขากลับน่าเบื่อมากๆ)
- The speed limit on this road is 80 km/h. (จำกัดความเร็วบนถนนนี้ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
- Everyone has equal voting rights. (ทุกคนมีสิทธิออกเสียงเท่ากัน)
- Jim’s new visa is single entry and valid for 30 days. (วีซ่าใหม่ของจิมเข้าออกได้ครั้งเดียวและมีอายุ 30 วัน)
- He was very happy in his school days. (เขามีความสุขมากๆในสมัยที่เป็นเด็กนักเรียน)
- Is there post office near here? (มีที่ทำการไปรษณีย์ใกล้ๆที่นี่มั้ย)
- Jane was rejected by his peer group. (เจนถูกปฎิเสธโดยกลุ่มเพื่อนของเธอ)
- I’m looking for a car park. (ผมกำลังมองหาที่จอดรถ)
- This cheese cake is very delicious. (ชีสเค้กนี้อร่อยมาก)
- I don’t like action movies. (ฉันไม่ชอบหนังบู๊)
- She goes to beauty shop every Monday. (เธอไปร้านเสริมสวยทุกวันจันทร์)
- The company’s office hours on Saturdays are from 8.30 am. to 12.00 pm. (เวลาทำการของบริษัทในวันเสาร์คือ 8.30 น. ถึง 12.00 น.)
- Paul works out 3 days a week in a health club. (พอลออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 วันในสโมสรสุขภาพ)
- We interviewed the head teacher of Ban Mai school. (เราสัมภาษณ์ครูใหญ่โรงเรียนบ้านใหม่)
- He is an estate agent. (เขาเป็นตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์)
นี่คือ ตัวอย่างคำนาม (Nouns) คู่กับคำนาม (Nouns) ที่นำมาใช้ร่วมกันบางส่วน แล้วกลายเป็นคำปรากฎร่วม Collocation ซึ่งมีจำนวนมากมายหลายคำ เราจะต้องพยายามจดจำให้ได้ ว่าคำไหนใช้คู่กับคำอะไร มีความหมายเช่นไร จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง..