Total Pageviews

Sponsored Ads

Friday, 11 October 2019

Prepositions of time คือ..? คำบุพบทบอกเวลา มีหลักการใช้อย่างไรบ้าง..?


Prepositions of time คำบุพบทบอกเวลา เพื่อบอกให้รู้ว่าบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง หรือในช่วงเวลาใดๆ  

ทีนี้..เราก็มาดูว่า Preposition of time คำบุพบทบอกเวลานั้น มีอะไรบ้างที่พบเห็นและใช้กันบ่อยๆ..?  และมีวิธีการใช้อย่างไร..?  เพื่อง่ายต่อความเข้าใจ ได้แยกออกเป็นกลุ่มๆ ดังนี้


1. during, over, for, since

เราใช้ during นำหน้าคำนาม (during+noun) เพื่อบอกช่วงเวลาของเหตุการณ์ ซึ่งอาจจะบ่งบอกช่วงเวลาที่ระบุแน่นอน หรือบ่งบอกช่วงเวลาทั้งหมดของเหตุการณ์ ตัวอย่างเช่น
  • The weather is so hot during summer. (อากาศร้อนมากในช่วงฤดูร้อน)
  • Kim was in Seoul during June. (คิมอยู่กรุงโซลในช่วงเดือนมิถุนายน)
  • No one spoke during the presentation. (ไม่มีใครพูดในระหว่างการนำเสนอ)
  • I have to leave my window open during the night. (ผมต้องเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ในช่วงกลางคืน)

เราใช้ over นำหน้าคำนาม (over+noun) เพื่อบอกช่วงเวลาทั้งหมดของเหตุการณ์ หรือเฉพาะช่วงเวลา ตัวอย่างเช่น
  • I’ll read the report over the weekend. (ผมจะอ่านรายงานในช่วงสุดสัปดาห์)
  • We expect a rise in sales over the next few months. (เราคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า)
ข้อสังเกต เราสามารถใช้ in แทน over ได้ทั้ง 2 ประโยค โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง

เราใช้  for เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นเป็นเวลานานเท่าไรแล้ว ตัวอย่างเช่น
  • I can only come for a few minutes. (ผมมาได้ไม่กี่นาทีเท่านั้น)
  • She has gone out for 2 hours. (เธอออกไปข้างนอกเป็นเวลา 2 ชม.แล้ว)
  • The village was flooded for 10 days. (หมู่บ้านถูกน้ำท่วมเป็นเวลา 10 วัน)
ข้อสังเกต  เรามักใช้ for กับระยะเวลา (for+length of time เช่น for 2 days, for 3 weeks, for 4 months ฯลฯ) เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์ได้ดำเนินมานานเท่าไรแล้ว  แต่เราจะไม่ใช้ for กับ all หรือ whole เช่น
  • It rained all/the whole day.

เราใช้ since เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร  ตัวอย่างเช่น
  • Jane has lived in Phuket since 2001. (เจนอาศัยอยู่ในภูเก็ตตั้งแต่ปี 2544)
  • I haven’t talked to her since Monday. (ผมไม่คุยกับเธอตั้งแต่วันจันทร์)
  • He has been talking since 8 am. (เขาพูดไม่หยุดตั้งแต่ 8 โมงเช้า)
ข้อสังเกต  เรามักจะใช้ since ในกลุ่ม Perfect tenses

2. till/until, before, after, by, from, between

เราใช้ till/until เพื่อบ่งบอกว่าเมื่อไรเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งได้เสร็จสิ้นลง  ตัวอย่างเช่น
  • John’ll teach English here till/until the next semester. (จอนจะสอนภาษาอังกฤษที่นี่จนถึงภาคการศึกษาถัดไป)
  • They drank in the pub till/until closing time. (พวกเขาดื่มในผับจนถึงเวลาปิด)
  • She won’t go to bed till/until midnight. (เธอจะไม่เข้านอนจนถึงเที่ยงคืน)

เราใช้ before/after ไว้หน้าคำนาม เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก่อนหรือหลัง ตัวอย่างเช่น
  • He came to America before the Civil War. (เขามาอเมริกาก่อนสงครามกลางเมือง)
  • If I get home before 6 pm. we can go to a movie. (ถ้าผมกลับถึงบ้านก่อน 6 โมงเย็น เราสามารถไปดูหนังได้)
  • She cleaned up the room after everyone left. (เธอทำความสะอาดห้องหลังจากทุกคนจากไป)
  • I’ll go for a walk after dinner. (ผมจะไปเดินเล่นหลังอาหารเย็น)
เราสามารถใช้ before/after ขึ้นต้นประโยคได้ โดยยังคงความหมายเหมือนเดิม
  • Before the Civil War, he came to America.
  • After dinner, I will go for a walk.

เราใช้ by เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์จะเสร็จสิ้นภายในเวลาใดเวลาหนึ่ง หมายความว่า ไม่เกินกว่าเวลานั้น ตัวอย่างเช่น
  • You should be here by 6 am.  (คุณควรจะมาถึงที่นี่ภายใน 6 โมงเช้า) คือ อย่างช้าไม่เกินกว่า 6 โมงเช้า
  • This report has to be done by Friday. (รายงานนี้ต้องเสร็จภายในวันศุกร์) คือ อย่างช้าไม่เกินกว่าวันศุกร์
ข้อสังเกต  เราสามารถใช้ before แทนได้ โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง

เราใช้ from เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเริ่มเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น
  • Tickets for the concert are on sale from Monday. (ตั๋วสำหรับคอนเสิร์ตวางจำหน่ายตั้งแต่วันจันทร์)
  • The finals take place from 1.30 pm. on Sunday. (รอบชิงชนะเลิศเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 13.30 น. ในวันอาทิตย์)
  • He was blind from birth. (เขาตาบอดตั้งแต่เกิด)
เราสามารถใช้ from…to/till/until  เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์ได้เริ่มต้นจนเสร็จสิ้นในเวลาใด ตัวอย่างเช่น
  • We’re open from 8 am. to 7 pm. every day. (เราเปิดทำการตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 19.00 น. ทุกวัน)
  • It’s very cold from October to March. (มันหนาวมากตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม)
  • Tim will be on holiday from Monday till/until Friday next week. (ทิมจะหยุดพักผ่อนตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันศุกร์อาทิตย์หน้า)

เราใช้ between เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์ได้เริ่มหลังจากเวลาหนึ่งและก่อนอีกเวลาหนึ่ง ตัวอย่างเช่น
  • They lived in Bangkok between 2000 and 2019. (พวกเขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯระหว่างปี พ.ศ.2543 และ 2562)
  • What were you doing between 5.30 pm. and 7 pm. yesterday. (คุณกำลังทำอะไรระหว่างเวลา 17.30 น. และ 19.00 น. เมื่อวาน)

ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็จะเป็น preposition of time (during, over, for, since, till/until, before, after, by, from, between) ที่พบเห็นและใช้กันบ่อยๆ ว่ามีหลักการใช้อย่างไร เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

ส่วนกลุ่มที่ 3 ท้ายสุด in on at จะขอแยกไปอธิบายอีกต่างหาก เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ