Total Pageviews

Sponsored Ads

Thursday, 10 October 2019

Preposition คือ..? มีอะไรบ้าง..?


Prepositions คำบุพบท คือ คำที่ใช้ทำหน้าที่เชื่อมคำ วลี เข้ากับคำอื่นๆในประโยค เพื่อบ่งบอกถึงเวลา สถานที่ ตำแหน่ง ทิศทาง และอื่นๆ เพื่อให้ประโยคได้ใจความสละสลวยสมบูรณ์ขึ้น

ตัวอย่าง Preposition คำบุพบท ที่ใช้กันบ่อยๆ 


Preposition คำบุพบท แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ดังนี้ คือ

1. Prepositions of time (บุพบทบ่งบอกเวลา) หมายถึง คำบุพบทที่ใช้เชื่อมคำหรือวลีที่เกี่ยวกับเวลา เช่น in, on, at, before, after, until, till, since, for, during ฯลฯ ตัวอย่างเช่น
  • He always gets up before 6 o’clock. (เขาตื่นก่อน 6 โมงเช้าเสมอ)
  • Don’t talk during the lesson.  (อย่าคุยกันในระหว่างบทเรียน)
  • We must arrive home at noon.  (เราต้องมาถึงบ้านตอนเที่ยง)
  • I’ll come back here in 10 minutes.  (ผมจะกลับมาที่นี่ใน 10 นาที)
  • They have stayed here for 2 months. (พวกเขาพักอยู่ที่นี่เป็นเวลา 2 เดือน)

2. Prepositions of place (คำบุพบทบ่งบอกสถานที่) หมายถึง คำบุพบทที่ใช้เชื่อมคำหรือวลีเกี่ยวกับสถานที่ ตำแหน่ง เช่น in, on, at, inside, outside, near, above, behind, around, by (beside), opposite, under, among ฯลฯ ตัวอย่างเช่น
  • Paul is standing by Tim. (พอลกำลังยืนอยู่ข้างทิม)
  • My house is opposite the hospital.  (บ้านของผมอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาล)
  • That dog always sleeps under my car. (สุนัขตัวนั้นมักจะนอนอยู่ใต้รถฉันเสมอ)
  • Don’t sit on the grass. (อย่านั่งบนพื้นหญ้า)
  • She’s waiting at the front door. (เธอกำลังรออยู่ที่ประตูหน้าบ้าน)

3. Prepositions of direction/movement (คำบุพบทบ่งบอกทิศทาง/เคลื่อนไหว) หมายถึง คำบุพบทที่ใช้เชื่อมคำหรือวลีในเรื่องเกี่ยวกับทิศทาง เช่น to, into, toward, up, down, over, through , along, across, from ฯลฯ ตัวอย่างเช่น
  • He jumped into the river. (เขากระโดดลงไปในแม่น้ำ)
  • The walked toward the police station. (พวกเขาเดินตรงไปยังสถานีตำรวจ)
  • Let’s walk along the beach. (เดินเล่นตามชายหาดกันเถอะ)
  • We have to walk through the park. (เราต้องเดินผ่านสวนสาธารณะ)
  • Jim went to Phuket yesterday. (จิมไปภูเก็ตเมื่อวาน)

4. Prepositions of manner (คำบุพบทแสดงลักษณะอาการ) คือ คำบุพบทที่ใช้เชื่อมคำหรือวลีในเรื่องเกี่ยวกับการแสดงอาการ บ่งบอกผู้กระทำ วิธีกระทำ การแสดงความเป็นเจ้าของ การแสดงวัตถุประสงค์ ความเห็น ความสัมพันธ์ เช่น in, by, of, for, with, to, about ฯลฯ ตัวอย่างเช่น
  • They are in a hurry. (พวกเขารีบเร่ง) แสดงอาการท่าทาง
  • This story was written by Jack. (เรื่องนี้เขียนโดยแจค) แสดงผู้กระทำคือแจค
  • He goes to school by bus. (เธอไปโรงเรียนโดยรถโดยรถประจำทาง) แสดงวิถีทาง
  • I go to university for a lecture. (ผมไปมหาวิทยาลัยเพื่อฟังคำบรรยาย) แสดงวัตถุประสงค์
  • The window of the house was broken. (หน้าต่างของบ้านแตก) แสดงความเป็นเจ้าของ
  • The girl with short hair is my sister.  (หญิงสาวที่มีผมสั้นเป็นน้องสาวของผม) แสดงความสัมพันธ์
ข้อสังเกต คำบุพบท Prepositions นั้น มักจะใช้ตามหลังคำนาม (Noun) คำกริยา (Verb) หรือคำคุณศัพท์ (Adjective)

ในการอธิบาย ได้แยกย่อยคำบุพบท (Prepositions) ออกเป็นหมวดหมู่หลักๆ เพื่อความสะดวกในการจดจำ  แต่ประเด็นสำคัญ ก็คือ การนำคำบุบพท (Prepositions) ไปใช้  เราจะใช้คำบุพบทแต่ละคำอย่างไร ให้ถูกต้อง ซึ่งเราก็ต้องอาศัยการสังเกตุและจดจำ อีกทั้งคำบุพบทบางคำ ยังนำไปใช้คู่กับคำชนิดอื่นๆอีก อย่างเช่น คู่กับคำกริยา, คำคุณศัพท์, คำนาม ซึ่งกำหนดแน่ชัดว่าคำบุพบทคำไหนใช้คู่กับคำอะไร  จึงได้ทำการแยกย่อยอธิบายแต่ละหัวข้อ แต่ละประเด็น  เพื่อที่จะได้เข้าใจง่ายขึ้น.. 

ในการนำคำบุพบท (Prepositions) มาใช้คู่กับคำนาม (Nouns) คำกริยา (Verbs) หรือคำคุณศัพท์ (Adjective) เราเรียกกลุ่มคำที่ใช้ร่วมกันนี้ว่า Collocation  โดยแยกอธิบายได้ดังนี้