Main verb กริยาหลัก คือ
กริยาที่มีความหมายเด่นชัด เป็นกริยาหลักในประโยค เช่น see, come, go,
help, play, live, talk, wait, hope, open, close เป็นต้น
- Jane studies Thai. (เจนเรียนภาษาไทย)
- They live in Bangkok. (พวกเขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ)
- I slept well. (ผมนอนหลับสบาย)
1. Transitive verb สกรรมกริยา คือ
คำกริยาที่ไม่มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง ต้องมีกรรม (Object) มารองรับ จึงจะทำให้มีความหมายสมบูรณ์ เช่น
- I bought a car. (ผมซื้อรถ) ถ้าพูดเพียง I bought ฉันซื้อ ซื้ออะไรหล่ะ งง..? ดังนั้น เพื่อให้ใจความสมบูรณ์ ก็ต้องมีกรรม car มารองรับเป็น I bought a car.
- She plays the piano. (เธอเล่นเปียโน)
- Jim did homework. (จิมทำการบ้าน)
2. Intransitive verb อกรรมกริยา
คือ คำกริยาที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีกรรม (Object) มารองรับ เช่น
- She swims every day. (เธอว่ายน้ำทุกวัน)
- We talked for hours. (เราคุยกันหลายชั่วโมง)
- The match starts at 4 pm. (การแข่งขันเริ่มเวลา 16.00 น.) ประโยคสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องมี กรรมมารองรับ
นอกจากนี้ กริยาหลัก Main
verb ยังเปลี่ยนรูปของกริยาตาม Tense เพื่อแสดงกาลเวลา
โดยแยกออกเป็น
1. Regular verbs กริยาที่เปลี่ยนแปลงโดยมีกฎเกณฑ์แน่นอน
กริยาหลักประเภทนี้ จะเปลี่ยนแปลงโดยการเติม ed ท้ายคำ
เพื่อแสดง Tense เช่น
- ask-asked-asked (ถาม)
- want-wanted-wanted (ต้องการ)
- wash-washed-washed ( ซัก สระ ล้าง)
- face-faced-faced (เผชิญหน้า)
2. Irregular verbs คำกริยาที่เปลี่ยนแปลงโดยไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน
เช่น
- bet-bet-bet (พนัน)
- cost-cost-cost (มีราคา)
- bend-bent-bent (โค้ง งอ)
- spend-spent-spent (ใช้เงิน เวลา)
- bleed-bled-bled (เลือดออก)
- feed-fed-fed (ให้อาหาร)
- begin-began-begun (เริ่มต้น)
- awake-awoke-awoken (ตื่น ปลุก)
- freeze-froze-frozen (เย็นจนแข็ง)
หมายเหตุ Main
verb กริยาหลักนี้ เป็นประเภทหนึ่งในกริยาแท้ (Finite verb)