Countable nouns คือ คำนามที่นับจำนวนได้
จึงมีรูปเอกพจน์ (singular form) และรูปพหูพจน์ (plural
form)
หลักการเปลี่ยนรูปคำนามเอกพจน์ (singular
form) เป็นคำนามพหูพจน์ (plural form) มีดังนี้
1. เติม s หลังคำนามเอกพจน์ทั่วไป เช่น
- chair – chairs (เก้าอี้)
- book – books (หนังสือ)
- pencil – pencils (ดินสอ)
- desk – desks (โต๊ะ)
- kite – kites (ว่าว)
- horse – horses (ม้า)
2. เติม es หลังคำนามที่ลงท้ายด้วย ch, s, ss, sh, x และ z เช่น
- church – churches (โบสถ์
- bus – buses (รถบัส)
- glass – glasses (แก้วน้ำ)
- brush – brushes (แปรง)
- box – boxes (กล่อง)
- quiz – quizzes (ทดสอบ)
3. เติม s หรือ es หลังคำนามที่ลงท้าย o
3.1 ถ้าหน้า o เป็นสระ a, e, i, o, u ให้เติม s เช่น
- radio – radios (วิทยุ)
- studio – studios (ห้องชุดขนาดเล็ก, ห้องแสดงรายการวิทยุ โทรทัศน์)
- kangaroo – kangaroos (จิงโจ้)
- bamboo – bamboos (ไม้ไผ่)
3.2 ถ้าหน้า o เป็นพยัญชนะให้เติม es เช่น
- hero – heroes (วีรบุรุษ)
- buffalo – buffaloes (กระบือ)
- tomato – tomatoes (มะเขือเทศ)
- potato – potatoes (มันฝรั่ง)
- mango – mangoes (มะม่วง)
3.3 ข้อยกเว้นสำหรับข้อ 3.2 ซึ่งจะเติมเฉพาะ s เช่น
- photo – photos (รูปถ่าย)
- piano – pianos (เปียโน)
- casino – casinos (บ่อน)
- kilo – kilos (กิโล)
- memo – memos (บันทึก)
- Eskimo – Eskimos (ชาวเอสกิโม)
3.4 ข้อยกเว้นสำหรับข้อ 1 และ 2 ซึ่งเติมได้ทั้ง s และ es เช่น
- mosquito – mosquitos, mosquitoes (ยุง)
- volcano – volcanos, volcanoes (ภูเขาไฟ)
- cargo – cargos, cargoes (สินค้า)
4. คำนามที่ลงท้ายด้วย y
- ถ้าหน้า y เป็นพยัญชนะให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น
- city – cities (เมือง)
- army – armies (กองทัพ)
- story – stories (เรื่องราว)
- lady – ladies (สุภาพสตรี)
- country – countries (ประเทศ)
- ถ้าหน้า y เป็นสระ a, e, i, o, u ให้เติม s เช่น
- key – keys (กุญแจ)
- toy – toys (ของเล่น)
- day – days (วัน)
- boy – boys (เด็กผู้ชาย)
- way – ways (ทาง)
5. คำนามที่ลงท้ายด้วย f, fe ให้เปลี่ยน f หรือ fe เป็น ves เช่น
- knife – knives (มีด)
- life – lives (ชีวิต)
- wolf – wolves (หมาป่า)
- shelf – shelves (ชั้น)
- leaf – leaves (ใบไม้)
- calf – calves (ลูกวัว)
ข้อยกเว้น แม้คำนามนั้นจะลงท้ายด้วย f, fe ให้เติม s เช่น
- roof – roofs (หลังคา)
- staff – staffs (คณะผู้ทำงาน)
- chief – chiefs (หัวหน้า)
- cliff – cliffs (หน้าผา)
- gulf – gulfs (อ่าว)
คำนามที่ลงท้ายด้วย f, fe จะเติม s หรือ ves ก็ได้ เช่น
- hoof – hoofs, hooves (กีบม้า)
- scarf – scarfs, scarves (ผ้าพันคอ)
5. คำนามที่มีรูปพหูพจน์เฉพาะ เช่น
- man – men (ผู้ชาย)
- woman – women (ผู้หญิง)
- foot – feet (เท้า)
- tooth – teeth (ฟัน)
- goose – geese (ห่าน)
- child – children (เด็ก)
- ox – oxen (วัวตัวผู้)
- mouse – mice (หนู)
6. คำนามที่มีรูปเหมือนกันทั้งเอกพจน์และพหูพจน์
เช่น
- fish (ปลา)
- sheep (แกะ)
- deer (กวาง)
- aircraft (อากาศยาน)
- salmon (ปลาแซลมอน)
- sardine (ปลาซาร์ดีน)
7. คำนามที่มีรูปเอกพจน์
แต่ใช้แบบพหูพจน์ เช่น
- people (ประชาชน ผู้คน)
- cattle (วัวควาย)
- police (ตำรวจ)
- gentry (พวกผู้ดี)
- majority (คนส่วนมาก)
- minority (คนส่วนน้อย)
8. คำนามที่มีรูปพหูพจน์
แต่ใช้แบบเอกพจน์ เช่น
- news (ข่าว)
- series (ชุด สิ่งที่ต่อเนื่อง)
- headquarters (สำนักงานใหญ่)
- physics (ฟิสิกส์)
- statistics (สถิติ)
- economics (เศรษฐศาสตร์)
- mathematics (คณิตศาสตร์)
- politics (รัฐศาสตร์)
- civics (หน้าที่พลเมือง)
9.
คำนามที่อยู่ในรูปของพหูพจน์เสมอ เช่น
- trousers (กางเกงขายาว)
- shorts (กางเกงขาสั้น)
- pants (กางเกงขาสั้น)
- scissors (กรรไกร)
- clothes (เสื้อผ้า)glasses (แว่นตา)
- spectacles (แว่นตา)
- goods (สินค้า)
- wages (ค่าจ้าง)
- stairs (บันไดบ้าน)
- belongings (สิ่งของส่วนตัว)
- savings (เงินออม)