Total Pageviews

Sponsored Ads

Wednesday, 20 March 2019

หลักการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ (singular nouns) เป็นคำนามพหูพจน์ (plural nouns)



Countable nouns  คือ คำนามที่นับจำนวนได้ จึงมีรูปเอกพจน์ (singular form) และรูปพหูพจน์ (plural form)

หลักการเปลี่ยนรูปคำนามเอกพจน์ (singular form) เป็นคำนามพหูพจน์ (plural form) มีดังนี้

1.  เติม หลังคำนามเอกพจน์ทั่วไป เช่น
  • chair – chairs (เก้าอี้)          
  • book – books (หนังสือ)       
  • pencil – pencils (ดินสอ)
  • desk – desks (โต๊ะ)
  • kite – kites (ว่าว)
  • horse – horses (ม้า)

2. เติม es หลังคำนามที่ลงท้ายด้วย ch, s, ss, sh, x และ เช่น
  • church – churches (โบสถ์
  • bus – buses (รถบัส)
  • glass – glasses (แก้วน้ำ)
  • brush – brushes (แปรง)
  • box – boxes (กล่อง)
  • quiz – quizzes (ทดสอบ)

3. เติม หรือ es หลังคำนามที่ลงท้าย o
  
    3.1 ถ้าหน้า เป็นสระ a, e, i, o, u ให้เติม เช่น 
    • radio – radios (วิทยุ)
    • studio – studios (ห้องชุดขนาดเล็ก, ห้องแสดงรายการวิทยุ โทรทัศน์)
    • kangaroo – kangaroos (จิงโจ้)
    • bamboo – bamboos (ไม้ไผ่)
    3.2 ถ้าหน้า เป็นพยัญชนะให้เติม es เช่น
    • hero – heroes (วีรบุรุษ)
    • buffalo – buffaloes (กระบือ)
    • tomato – tomatoes (มะเขือเทศ)
    • potato – potatoes (มันฝรั่ง)
    • mango – mangoes (มะม่วง)
    3.3 ข้อยกเว้นสำหรับข้อ 3.ซึ่งจะเติมเฉพาะ เช่น
    • photo – photos (รูปถ่าย)
    • piano – pianos (เปียโน)
    • casino – casinos (บ่อน)
    • kilo – kilos (กิโล)
    • memo – memos (บันทึก)
    • Eskimo – Eskimos (ชาวเอสกิโม)
    3.4 ข้อยกเว้นสำหรับข้อ และ ซึ่งเติมได้ทั้ง และ es เช่น
    • mosquito – mosquitos, mosquitoes (ยุง)
    • volcano – volcanos, volcanoes (ภูเขาไฟ)
    • cargo – cargos, cargoes (สินค้า)

4. คำนามที่ลงท้ายด้วย y
  • ถ้าหน้า เป็นพยัญชนะให้เปลี่ยน เป็น แล้วเติม es เช่น
    • city – cities (เมือง)
    • army – armies (กองทัพ)
    • story – stories (เรื่องราว)
    • lady – ladies (สุภาพสตรี)
    • country – countries (ประเทศ)
  • ถ้าหน้า เป็นสระ a, e, i, o, u ให้เติม เช่น 
    • key – keys (กุญแจ)
    • toy – toys (ของเล่น)
    • day – days (วัน)
    • boy – boys (เด็กผู้ชาย)
    • way – ways (ทาง)

5. คำนามที่ลงท้ายด้วย f, fe ให้เปลี่ยน หรือ fe เป็น ves เช่น
  • knife – knives (มีด)
  • life – lives (ชีวิต)
  • wolf – wolves (หมาป่า)
  • shelf – shelves (ชั้น)
  • leaf – leaves (ใบไม้)
  • calf – calves (ลูกวัว)
ข้อยกเว้น แม้คำนามนั้นจะลงท้ายด้วย f, fe ให้เติม เช่น
  • roof – roofs (หลังคา)
  • staff – staffs (คณะผู้ทำงาน)
  • chief – chiefs (หัวหน้า)
  • cliff – cliffs (หน้าผา)
  • gulf – gulfs (อ่าว)
คำนามที่ลงท้ายด้วย f, fe จะเติม หรือ ves ก็ได้ เช่น
  • hoof – hoofs, hooves (กีบม้า)
  • scarf – scarfs, scarves (ผ้าพันคอ)

5. คำนามที่มีรูปพหูพจน์เฉพาะ เช่น
  • man – men (ผู้ชาย)
  • woman – women (ผู้หญิง)
  • foot – feet (เท้า)
  • tooth – teeth (ฟัน)
  • goose – geese (ห่าน)
  • child – children (เด็ก)
  • ox – oxen (วัวตัวผู้)
  • mouse – mice (หนู)

6. คำนามที่มีรูปเหมือนกันทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ เช่น
  • fish (ปลา)
  • sheep (แกะ)
  • deer (กวาง)
  • aircraft (อากาศยาน)
  • salmon (ปลาแซลมอน)
  • sardine (ปลาซาร์ดีน)

7. คำนามที่มีรูปเอกพจน์ แต่ใช้แบบพหูพจน์ เช่น
  • people (ประชาชน ผู้คน)
  • cattle (วัวควาย)
  • police (ตำรวจ)
  • gentry (พวกผู้ดี)
  • majority (คนส่วนมาก)
  • minority (คนส่วนน้อย)

8. คำนามที่มีรูปพหูพจน์ แต่ใช้แบบเอกพจน์ เช่น 
  • news (ข่าว)
  • series (ชุด สิ่งที่ต่อเนื่อง)
  •  headquarters (สำนักงานใหญ่)
  • physics (ฟิสิกส์)
  • statistics (สถิติ)
  • economics (เศรษฐศาสตร์)
  • mathematics (คณิตศาสตร์)
  • politics (รัฐศาสตร์)
  • civics (หน้าที่พลเมือง)

9. คำนามที่อยู่ในรูปของพหูพจน์เสมอ เช่น
  • trousers (กางเกงขายาว)
  • shorts (กางเกงขาสั้น)
  • pants (กางเกงขาสั้น)
  • scissors (กรรไกร)
  • clothes (เสื้อผ้า)glasses (แว่นตา)
  • spectacles (แว่นตา)
  • goods (สินค้า)
  • wages (ค่าจ้าง)
  • stairs (บันไดบ้าน)
  • belongings (สิ่งของส่วนตัว)
  • savings (เงินออม)