สืบเนื่องจากบทความที่แล้ว Nouns คำนาม คือ
คำที่ใช้เรียก คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ความคิด เช่น teacher, cat,
pen, hospital, hate เป็นต้น
ทีนี้..
เราก็มาเรียนรู้กันต่อว่า Nouns คำนาม นั้น มีรูปแบบอย่างไร..?
Forms of Nouns รูปของคำนาม
มีอยู่ 2 แบบ คือ
1. Nouns คำนามที่เป็นคำเดียวโดดๆ
เช่น dog, hat, cup, man, boy, pen, book, table, ruler เป็นต้น
2. Nouns คำนามที่เป็นคำประสม (compound
nouns) เป็นคำนามที่เกิดจากคำหลายๆคำมารวมกัน กลายเป็นคำใหม่
มีความหมายใหม่ ซึ่งมีวิธีทำโดย
- นำคำนาม 2 คำมาประสมกัน
- นำคำนามหรือคำอื่นมาประสมกัน
นั่นก็คือ การสร้างคำนาม (Formation
of Nouns หรือ Creating Nouns) นั่นเอง
ทีนี้.. เรามาดูกันว่า วิธีการสร้างคำนาม นั้น
มีอย่างไรบ้าง..?
Formation of Nouns หรือ Creating
Nouns การสร้างคำนาม มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน
เช่น
1. การนำคำนาม 2 คำมาผสมกัน กลายเป็นคำใหม่ มีความหมายใหม่ เช่น
- landlady มาจาก land + lady (เจ้าของที่ดินหรือบ้านเช่าที่เป็นผู้หญิง)
- girlfriend มาจาก girl + friend (แฟนสาว)
- roommate มาจาก room + mate (เพื่อนร่วมห้อง)
- postman มาจาก post + man (บุรุษไปรษณีย์)
- tablespoon มาจาก table + spoon (ช้อนโต๊ะ)
2. การนำ Verbs คำกริยาบางคำมาเติม r หรือ er มีความหมายเป็น
“ผู้กระทำ” เช่น
- teach (สอน) เป็น teacher (ครู, ผู้สอน)
- work (ทำงาน) เป็น worker (คนงาน)
- sell (ขาย) เป็น seller (คนขาย)
- sing (ร้องเพลง) เป็น singer (นักร้อง)
- read (อ่าน) เป็น reader (ผู้อ่าน, คนอ่าน)
- run (วิ่ง) เป็น runner (นักวิ่งแข่ง)
- write (เขียน) เป็น writer (ผู้เขียน)
- drive (ขับ) เป็น driver (คนขับรถ)
- rule (ปกครอง) เป็น ruler (ผู้ปกครอง)
3. การนำ verbs คำกริยาบางคำมาเติม or มีความหมายเป็น “ผู้กระทำ” เช่น
- visit (เยี่ยม) เป็น visitor (ผู้มาเยี่ยม)
- collect (รวบรวม) เป็น collector (ผู้รวบรวม)
- sail (แล่นเรือ) เป็น sailor (กลาสี)
- govern (ปกครอง) เป็น governor (ผู้ปกครอง)
- conquer (ชนะ) เป็น conqueror (ผู้ชนะ)
4. การนำ verbs คำกริยาบางคำมาเติม tion (ion) มีความหมายเป็น “การกระทำ” เช่น
- act (แสดง) เป็น action (การกระทำ)
- collect (รวบรวม) เป็น collection (การรวบรวม, การสะสม)
- correct (แก้ไข) เป็น correction (การแก้ไข)
- direct (ชี้แนะ) เป็น direction (แนวทาง, ทิศทาง)
- protect (คุ้มครอง) เป็น protection (การคุ้มครอง)
5. การนำ verbs คำกริยาบางคำมาเติม ment มีความหมายเป็น “การกระทำ”
- agree (ตกลง) เป็น agreement (การตกลง, ข้อตกลง)
- pay (จ่ายเงิน) เป็น payment (การจ่ายเงิน)
- punish (ลงโทษ) เป็น punishment (การลงโทษ)
- move (เคลื่อนย้าย) เป็น movement (การเคลื่อนย้าย)
- develop (พัฒนา) เป็น development (การพัฒนา)
6. การนำ verbs คำกริยาบางคำมาเติม ing มีความหมายเป็น “การกระทำ”
- eat (กิน) เป็น eating (การกิน)
- greet (ทักทาย) เป็น greeting (การทักทาย)
- swim (ว่ายน้ำ) เป็น swimming (การว่ายน้ำ)
- run (วิ่ง) เป็น running (การวิ่ง)
- walk (เดิน) เป็น walking (การเดิน)
7. การนำ adjective คำคุณศัพท์บางคำมาเติม ness
- cold (หนาว) เป็น coldness (ความหนาว)
- good (ดี) เป็น goodness (ความดี)
- clever (ฉลาด) เป็น cleverness (ความฉลาด)
- sweet (หวาน) เป็น sweetness (ความหวาน)
- happy (มีความสุข) เป็น happiness (ความสุข)
8. คำนามที่มาจาก adjective
คำคุณศัพท์อื่นๆ
- long (ยาว) เป็น length (ความยาว)
- deep (ลึก) เป็น depth (ความลึก)
- wide (กว้าง) เป็น width (ความกว้าง)
- high (สูง) เป็น height (ความสูง)
- hot (ร้อน) เป็น heat (ความร้อน)
หมายเหตุ คำ ment, tion, ness ที่นำมาต่อท้ายคำต่างๆนั้น เราเรียกว่า suffixes คำเสริมท้าย
หรือคำต่อท้าย