Verb คำกริยา คือ คำที่ใช้อธิบายการกระทำ
สภาพ หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นตัวสร้างหลักของภาคแสดงในประโยค นั่นก็คือ คำที่แสดงอาการเคลื่อนไหวของประธาน
(Subject) เพื่อให้ทราบว่าประธานทำอะไร มีสถานะ หรือสภาพเป็นอย่างไร ตัวอย่างเช่น
- Verb คำกริยาที่ใช้แสดงอาการกระทำทางกายภาพ
- The doctor writes the prescription. (แพทย์เขียนใบสั่งยา)
- Jane bought a car. (เจนซื้อรถ)
- Verb คำกริยาที่ใช้แสดงสถาวะทางความคิด
ความรู้สึก
- I think the same thing. (ฉันคิดเหมือนกัน)
- Tom guessed the right number. (ทอมเดาตัวเลขถูกต้อง)
- Verb คำกริยาที่ใช้แสดงสถานะความเป็นอยู่
- Jack is an English teacher. (แจคเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ)
- It was a joke. (มันเป็นเรื่องตลก)
Verb คำกริยา แบ่งออกเป็นดังนี้
คือ
1. สกรรมกริยา (Transitive
verb) และอกรรมกริยา (Intransitive verb)
- สกรรมกริยา (Transitive
verb) คือ คำกริยาที่ไม่มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง ต้องมีกรรม (Object)
มารองรับ จึงจะทำให้มีความหมายสมบูรณ์ เช่น
- I saw a snake. (ฉันเห็นงู)
ถ้าพูดเพียง I saw ฉันเห็น เห็นอะไรหล่ะ งง..? ดังนั้น เพื่อให้สมบูรณ์ได้ใจความ ก้อต้องมีกรรม (งู) มารองรับเป็น I
saw a sneak (ฉันเห็นงู)
- อกรรมกริยา (Intransitive
verb) คือ คำกริยาที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีกรรม
(Object) มารองรับ เช่น
- The rain falls. (ฝนตก)
- My throat hurts. (ผมเจ็บคอ) ประโยคสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องมีกรรมมารองรับ
2. กริยาแท้ (Finite
verb) และกริยาไม่แท้ (Non-Finite verb)
กริยาแท้ (Finite
verb) คือ กริยาที่แสดงอาการกระทำหรือลักษณะอาการของประธาน (Subject)
และแสดงกาลเวลา (Tenses) อีกด้วย เช่น
- He runs fast. (เขาวิ่งเร็ว)
run เป็นกริยาแท้ (Finite verb) เพราะแสดงการกระทำ
(Action) หรืออาการกระทำ (Manner) ของประธาน
He และยังแสดง Tense เป็น Present
Simple Tense
- The police man caught the thief. (ตำรวจจับขโมย) caught เป็นกริยาแท้
แสดงอาการกระทำของประธาน Policeman และแสดง Tense เป็น Past Simple Tense
กริยาไม่แท้ (Non-Finite
verb) คือ คำกริยาที่ไม่แสดงการกระทำ (Action) หรืออาการ (Manner) ของประธานและไม่แสดงกาลเวลา Tense
กล่าวคือ เป็นคำกริยาในรูปแบบที่ไม่ได้ทำหน้าที่เหมือนคำกริยา แต่มีความจำเป็นต้องใช้ในการสร้างประโยค กริยาไม่แท้นี้ ไม่มีผลต่อการกระทำหรือลักษณะอาการของประธาน คือไม่ผันตามประธาน (Subject) หรือกาลเวลา (Tenses) และจะมีเพียงรูปเดียว ไม่ว่าอยู่ส่วนไหนของประโยค ก็จะใช้รูปนั้นตลอด เช่น
- They are studying English now. (พวกเขากำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ตอนนี้) studying เป็นกริยาไม่แท้
(Non-finite verb) ที่มีความหมายว่า กริยานั้นกำลังดำเนินอยู่
ถ้าเราเปลี่ยนเป็น Past Continuous Tense ก็จะเป็น They were studying English at 4 pm.
yesterday. จะเห็นว่ากาลเวลา Tense เปลี่ยนจาก
now เป็น at 4 pm. yesterday
ดังนั้น are
กริยาแท้ (Finite verb) ในรูปกริยาช่วย เปลี่ยนเป็น
were ส่วน studying เป็นกริยาไม่แท้ (Non-finite
verb) ในรูปกริยาแท้เติม ing (Present Participle) จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตาม Tense หรือประธาน จะคงอยู่ในรูปเดิม คือ studying นั่นเอง
กริยาไม่แท้ (Non-Finite
verb) แบ่งออกเป็น
คำกริยากลุ่มนี้ (Non-Finite verb) จะไม่นำมาใช้เป็นกริยาแท้ของประโยค แต่จะนำมาใช้ในหน้าที่อื่นๆ เช่น คำนาม
คำคุณศัพท์ ซึ่งในส่วนนี้ จะได้อธิบายแยกย่อยเป็นกลุ่มๆไป
ง่ายต่อการทำความเข้าใจ..